วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต


Web Page หมายถึง  ข้อมูลที่เป็นอักษร เสียง และภาพต่างๆ ที่บรรจุในแฟ้มเอกสารแต่ละหน้าของเวิลด์ไวด์เว็บ (WWW) ที่เปิดอ่านจากโปรแกรม Browser


Web site หมายถึง  สถานที่ที่ WebPage อาศัยอยู่ โดยเข้าถึงด้วยชื่อ Domain Name เช่น www.nu.ac.th (เว็บไซด์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร)


Home Page หมายถึง WebPage ที่อยู่หน้าแรกของ Web site ที่ใช้แฟ้มว่า index.html หรือ index.htm เสมอ

Web Browser หมายถึง โปรแกรมใช้ในการเข้าไปยังเว็บไซด์ต่างๆ ในโลก World Wide Web ของอินเทอร์เน็ต เช่น Netscape Navigator, Internet Explorer

Domain Name หมายถึง 
หมายถึงชื่อที่ใช้ประกาศความเป็นตัวตนบนโลกอินเทอร์เน็ต ถ้าชื่อลงท้ายด้วย .com ต้องมีการจดทะเบียนที่ www.internic.com แต่ถ้าเป็นพวก .co.th การจดทะเบียนที่ www.ternic.co.th

URL(Uniform Resouire Locator)  หมายถึง  
  ที่อยู่ของข้อมูลบน WWW ซึ่งถ้าเราจะหาข้อมูล

IP (Internet Protocol) หมายถึง 
เป็นโปรโตคอลที่ใช้สำหรับการสื่อสารแบบ TCP

TCP/IP (Transport Control Protocol/Internet Protocol) หมายถึง 
 เป็น Protocol ตามมาตรฐานอตุสาหกรรมในการติดต่อสื่อสาร ทำให้ระบบเครือข่ายสามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้

Protocol หมายถึง เป็นกฏระเบียบและข้อตกลงที่สถาบันต่างๆ กำหนดขึ้นมาเพื่อรองรับการสื่อสารระหว่างเครื่องและอุปกรณ์ต่างๆ ให้สามารถสื่อสารและเข้าใจพูดคุยกันได้ เช่นที่นิยมใช้คือ TCP/IP เป็นต้น

ISP (Internet Service Provider)   หมายถึง 
คือผู้ให้บริการเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต


ASP (Application Service Provider) หมายถึง 
คือผู้ให้บริการ Software หรือวิธีการใช้ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่จำเป็นต้องมี Software ของผู้ใช้เอง

IDC (Internet Data Center) หมายถึง คือผู้ให้บริการรับฝากเครื่อง Server และตระเตรียมสาธารณูปโภคในการทำธุรกรรมให้พร้อมสรรพ

E-Commerce (Elertronic Commerce) หมายถึง  
คือการทำธุรกรรม อะไรก็ได้โดยใช้สื่ออินเทอร์เน็ต

Hypertext หมายถึง 
คือเอกสารที่ทำการเชื่อมโยงต่อไปยังเอกสารอื่นๆ ทำให้สามารถอ่านได้หลายมิติ


Download หมายถึง 
คือการย้ายข้อมูลของคอมพิวเตอร์ที่ไกลออกไปมาไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ท้องถิ่น (Local) โดยทั่วไปหมายถึง การรับข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่อยู่ห่างไกลออกไป มาเครื่องอีกเครื่องหนึ่ง หรือเครื่องที่เรากำลังใช้งานอยู่ ซึ่งตรงข้ามกับ Upload

Upload หมายถึง  เป็นการส่งข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไป

POP (Post Office Protocal) หมายถึง 
 ระบบที่ทำให้สามารถรับและดาว์นโหลด จดหมายจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ไปยังคอมพิวเตอร์ของเราเอง

Internet Address หมายถึง 
 คือที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต จะประกอบไปด้วยชื่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์ (User Name) และชื่อของอินเทอร์เน็ต (Internet Name) โดยมีรูปแบบ ดังนี้

ชื่อผู้ใช้@ชื่ออินเทอร์เน็ต
ตัวอย่าง เช่น chaiklongick@hotmail.com หมายถึงผู้ใช้ชื่อ chaiklong เป็นสมาชิกของศูนย์บริการหรือศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า hotmail.com

IP Address คือหมายถึง 
คือหมายเลขรหัสประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต โดยเลขนี้จะมีรหัสซ้ำกันไม่ได้ IP Address ประกอบไปด้วยตัวเลข 4 หลักที่คั่นด้วย เครื่องจุด (.) ตัวอย่างเช่น 203.155.35.2 เป็น IP Address ของเครื่อง internet.th.com

Mailing List หมายถึง  กลุ่มสนทนาที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยใช้โปรแกรม E-mail ติดต่อสื่อสารระหว่างกัน การเข้าร่วม Mailing List โดยสมัครสมาชิกแล้วจดหมายทุกฉบับที่ถูกส่งไปยัง List ก็จะถูกส่งไปให้ทุกคน ที่อยู่ใน List ได้อ่านกัน


ที่มา: http://www.chaiwbi.com/anet01/p04/t04l.html

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แบบฝึกหัดอินเตอร์เน็ต

แบบฝึกหัดอินเตอร์เน็ต

1.      จงค้นหาเว็บไซต์ที่มีโดเมนเป็นดังต่อไปนี้อย่างละ 5 เว็บไซต์แล้วบอกรายละเอียดของเว็บไซต์นั้น
-          .com  คือ บริษัท หรือ องค์กรพาณิชย์
-          .co.th  คือ บริษัท หรือ องค์กรพาณิชย์
-          .ac.th คือ สถาบันการศึกษา
-          .go.th คือ องค์กรของรัฐบาล
-          .or.th คือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผลกำไร


2. จงค้นหาเว็บไซต์ที่ให้บริการ Search Engine มาอย่างน้อย
      3 เว็บไซต์ แล้วบอกรายละเอียดของเว็บไซต์นั้น

www.yahoo.com
            เว็บไซต์ค้นหาเก่าแก่รู้จักกันมานาน  ปัจจุบันก็ยังเป็นที่นิยมอยู่เหมือนเคย  ด้วยการที่มีฐานข้อมูลหลากหลายครอบคลุมในทุกเรื่อง  ค้นหาได้ฉับไวเช่นเดียวกันกับ  Google  เพราะเคยใช้ฐานข้อมูลของ  Google  มาก่อนนั่นเอง  นอกจากนั้น  Yahoo  ยังให้บริการอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย  เช่น  บริการอีเมล์ฟรี  บริการพื้นที่เว็บไซต์ฟรี
            www.google.co.th
            เป็นเว็บไซต์ฐานข้อมูลที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของโลก  ในอดีตเป็นบริษัทที่ดำเนินการด้านฐานข้อมูลเพื่อให้บริการแก่เว็บไซต์ค้นหาอื่น ๆ  ปัจจุบันได้เปิดเว็บไซต์ค้นหาเอง  ด้วยฐานข้อมูลมากกว่าสามพันล้านเว็บไซต์และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน  ที่เหนือกว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ  คือ  เป็นเว็บไซต์ค้นหาที่สนับสนุนภาษาต่าง ๆ มากกว่า  80 ภาษาทั่วโลก  (รวมทั้งภาษาไทย)  และมีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ให้บริการในส่วนต่าง ๆ ของโลกมากถึง  36  ประเทศ
            www.Altavista.com
            เป็น  search  engine  ของบริษัท  Digital  Equipment  Crop.  หรือ  Dec  ซึ่งมีฐานข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มาก  มีโปรแกรมที่ช่วยในการค้นหาข้อมูลที่มีความสามารถที่สูงมาก  โดยมีเว็บเพจมากกว่า  150  ล้านเว็บที่ใช้ในการค้นหาข้อมูล


3.      จงค้นหาเว็บไซต์ที่ให้บริการ E-mail มาอย่างน้อย 3 เว็บไซต์ แล้วบอกรายละเอียดของเว็บไซต์นั้น

 3.1Youtube.com
วีดีโอออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่นิยมที่สุดในโลก มีคนบอกว่าถ้าเอาความยาวของวีดีโอมาเปิดดูต่อกัน อาจต้องใช้เวลาหลายชั่วอายุคน ถึงจะดูได้ทั้งหมด ลองหาอะไรดีๆ ไปอัพโหลดไว้บนยูทูปดูกันนะครับ ว่ากันว่า คนไทยดูเยอะ แต่อัพโหลดน้อย เห็นทีเราต้องเปลี่ยนนิสัยกันบ้างแล้วหละ
เว็บท่าอันดับหนึ่งของเมืองไทย ที่รวบรวมหลากหลายเรื่องราวเอาไว้ที่เดียว ครูทีมเล่นเว็บนี้ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม พักหลังๆ ไม่ค่อยได้เล่น แต่ช่วงนี้เห็นนักเรียนชอบเล่นกันมาก เพราะมีเกมสนุกๆ ให้เล่นเพียบเลย

3.3 MSN.com 
ใครเล่น MSN จะรู้จักเว็บนี้เป็นอย่างดี เพราะทุกครั้งที่เปิดโปรแกรม msn มันจะเปิดเว็บนี้มาให้โดยอัตโนมัติครับ ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารไว้ทุกประเภทให้อัพเดทกัน แต่ผมว่ามันไม่ค่อยอัพเดท เท่าไหร่เลย คนอื่นๆ ว่าไงบ้างครับ

4.      จงค้นหาเว็บไซต์ที่สนใจอย่างน้อย 3 เว็บไซต์ แล้วบอกรายละเอียดของเว็บไซต์นั้น (ไม่ซ้ำกับข้อ 1-3)
1.www.facebook.com
2.www.youtube.com
3.www.Instant Message


5.      จงอธิบายความหมายของคำต่อไปนี้
-          Web board  คือเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่ในลักษณะเป็น กระดานสนทนา เป็นกระดานแจ้งข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยใช้รูปแบบการแสดงผล HTML ที่นิยมใช้ใน World Wide Web (WWW ) ซึ่ง WebBoard อนุญาตให้ผู้เยี่ยมชมเวปไซต์ และผู้พัฒนาเวปไซต์สามารถตั้งหัวข้อกระทู้ เพื่อประกาศข่าวสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ โดยทั่วไปมักเรียกเว็บบอร์ด(webboard)ว่า บอร์ด  หรือ กระดานข่าวสาร กระดานข่าวสารนั้นยังมีชื่อเรียกอื่นอีกมากมาย อาทิเช่น กระดานสนทนาออนไลน์,เว็บบอร์ด,เว็บฟอรัม,ฟอรัม,เมสเซจบอร์ด,บุลเลตอินบอร์ด,ดิสคัชชันบอร์ด ตัวอย่างในเว็บบอร์ดไทยได้แก่ พันทิป, เอ็มไทย เป็นต้น

-          Guestbook  คือ เวบเพจที่เจ้าของเวบสร้างขึ้นมา เพื่อต้องการรับข้อมูล ข่าวสาร คำติ คำชม คำแนะนำ จากผู้มาเยี่ยม
ชมเวบ เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการพัฒนาเวบของตนให้ดียิ่งขึ้น ยิ่งเวลาได้รับคำชมจากผู้เยี่ยมชมล่ะก้อ วันนั้นเจ้าของ เวบคงยิ้มทั้งวัน ขวัญและกำลังใจมาเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเข่ง

-      Banner การตลาดยุคปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ระบบการตลาดออนไลน์ คือ การตลาดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะการตลาดที่ใช้ต้นทุนที่น้อย แต่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนเป็นจำนวนกว้าง รวดเร็ว และทันสมัยตำแหน่งโฆษณาออนไลน์ หรือที่เรียกกันว่า แบนเนอร์ (Banner) คือป้ายโฆษณาตัวสินค้า หรือบริการที่สามารถแสดงผ่านหน้าเว็บไซต์ บนระบบ internet ได้ หากผู้ใช้ต้องการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ การโฆษณาบนตำแหน่ง Banner จะเป็นตัวช่วยสร้างความโดดเด่นทำให้ผู้ค้นหาค้นพบสินค้า และบริการบน Banner ได้เร็วกว่า เข้าถึงง่ายกว่า และเกิดโอกาสคลิกเพื่อดูข้อมูล และตัดสินใจซื้อมากขึ้นเรื่อยๆประโยชน์ที่ได้รับจากโฆษณา Banner
1. สร้างความสนใจเพื่อดึงดูดใจให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ กดที่ตำแหน่งโฆษณา Banner เข้าไปดูเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณา ซึ่งเราจะพบเห็นการโฆษณาในรูปแบบนี้กับ affiliate program และ pay per click บางตัว เช่น Google AdSense เป็นต้น 2. โลโก้ตำแหน่งโฆษณา Banner ยังสามารถช่วยเราสร้าง Brand ให้กับสินค้า หรือบริษัทได้อีกทางหนึ่ง เมื่อผู้เยี่ยมชมพบเห็นโลโก้ตำแหน่งโฆษณา Banner นั้นๆปรากฏอยู่ในที่ต่างๆ สามารถทำให้ผู้พบเห็นรู้จักสิ่งที่เราต้องการนำเสนอได้มากขึ้นอีกด้วย 3. การออกแบบโลโก้ตำแหน่งโฆษณา Banner ไว้เพื่อใช้ Promote เว็บไซต์ ซึ่งเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของเราได้ เพราะแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเราให้ความสนใจต่อรายละเอียดต่างๆ ซึ่งแม้จะเป็นเพียงจุดเล็กๆ ก็ตาม ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ของเราย่อมเกิดความไว้วางใจที่จะใช้บริการสินค้า และบริการของผู้โฆษณาตามมา สร้างตำแหน่งโฆษณา Banner ระบบออนไลน์ อย่างไรให้คนคลิก ? ตำแหน่งโฆษณา Banner โฆษณาออนไลน์มีอยู่มากมายหลายชนิด ซึ่งใช้เทคนิคเดียวกันในการสร้างและออกแบบ หากต้องการออกแบบให้มีประสิทธิภาพ โดนใจลูกค้า ต้องการให้ลูกค้าสนใจ และคลิกผ่าน Banner เยอะที่สุด จำเป็นต้องมีเทคนิคในการจัดทำ Banner และงานวิจัยของ CNET Networks แสดงให้เห็นว่าโฆษณาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจะใช้ภาพ สีสัน และความเข้มของสีที่ดูมีพลัง ดังนี้ ใช้ภาพที่มีพลัง ภาพใหญ่ที่กว้างจะทำให้คนเห็นง่ายยิ่งกว่านั้นความเข้มของสีระหว่างพื้นหน้า และพื้นหลัง โดยเฉพาะพื้นหลังสีดำจะทำให้โฆษณาดูเป็นสามมิติ และสมจริงยิ่งขึ้น นายแบบ หรือนางแบบควรจะมองตรงหาผู้ชมเพราะจะทำให้ผู้ชมสะดุดตามากขึ้น เน้นความเรียบง่าย โฆษณาที่รกตาไม่สามารถเรียกความสนใจจากผู้ชมได้ ดังนั้นควรมีการ Focus จุดที่ต้องการนำเสนอโลโก้ที่เด่นชัด การดำเนินเรื่องที่ชัดเจน และรูปแบบที่เหมาะสมอยู่เสมอ การเดินเรื่องที่เหมาะสม เมื่ออยู่บนสื่อออนไลน์ ควรคำนึงอยู่เสมอว่าสายตาของผู้ชมจะถูกดึงดูดไว้กับสิ่งที่เคลื่อนไหวก่อน และสิ่งสำคัญที่สุดคือ “ภาพเคลื่อนไหว ชนะ ตัวอักษรเสมอ” เข้าใจ และใช้ประโยชน์จากข้อดีของตำแหน่งโฆษณา Banner ในแต่ล่ะอย่าง Banner แต่ล่ะแบบมีข้อดีของตนเอง เช่น แบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกลางอาจเหมาะสำหรับภาพเคลื่อนไหวหรือกราฟิกที่มีรายละเอียดในการมองเห็นสามารถช่วยนำเสนอได้แบบสมบูรณ์ ส่วน leader board จะแสดงประเด็นอย่างรวดเร็วเหมาะสำหรับการนำเสนอภาพสินค้า ประโยชน์ คุณสมบัติ และราคา Banner อีกประเภทก็คือ skyscraper มักจะใช้ประโยชน์ในแนวตั้งเพื่อสื่อสารหรือเผยแพร่ข้อความในขณะที่ผู้ชมเลื่อนหน้าจอลงไปดู

-       Pool คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินว่า Computare ซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคำนวณ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ว่า "เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ ที่ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์"
-        Upload การส่งข้อมูล แฟ้มข้อมูลหรือโปรแกรม จากคอมพิวเตอร์ที่เราใช้อยู่ หมายถึงการอัปโหลด ขณะเดียวกัน การรับข้อมูล แฟ้มข้อมูลหรือโปรแกรมเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้อยู่ หมายถึงการดาวน์โหลด ตัวอย่างเช่นว่าคัดลอกจากคอมพิวเตอร์แม่ข่ายเข้ามาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของเราเองสำหรับทาง ไอเอสพี กำหนดการส่งข้อมูลจากลูกค้า เรียกว่าการอัปโหลด และการรับข้อมูลถือเป็นการดาวน์โหลดโดยทั่วไปที่เข้าใจกัน คำว่าดาวน์โหลดหมายถึงการรับไฟล์ และอัปโหลดหมายถึงการส่งไฟล์

-       Download การส่งข้อมูล แฟ้มข้อมูลหรือโปรแกรม จากคอมพิวเตอร์ที่เราใช้อยู่ หมายถึงการอัปโหลด ขณะเดียวกัน การรับข้อมูล แฟ้มข้อมูลหรือโปรแกรมเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้อยู่ หมายถึงการดาวน์โหลด ตัวอย่างเช่นว่าคัดลอกจากคอมพิวเตอร์แม่ข่ายเข้ามาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของเราเองสำหรับทาง ไอเอสพี กำหนดการส่งข้อมูลจากลูกค้า เรียกว่าการอัปโหลด และการรับข้อมูลถือเป็นการดาวน์โหลดโดยทั่วไปที่เข้าใจกัน คำว่าดาวน์โหลดหมายถึงการรับไฟล์ และอัปโหลดหมายถึงการส่งไฟล์
-Download คำว่า ดาวน์โหลด มีหลายความหมาย เช่น หมายถึง บรรจุลง การก๊อบปี้ การโอนย้ายข้อมูลหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากระบบที่ใหญ่สู่ระบบที่เล็กกว่า หรือบรรจุคำสั่งลงไปในเครื่อง ซึ่งโดยทั่วไป ดาวน์โหลดหมายถึงการรับไฟล์ และอัปโหลดหมายถึงการส่งไฟล์ ลักษณะการดาวน์โหลด มีหลากหลายมาก ทั้งเรื่องการศึกษาและความบันเทิง เช่น ดาวน์โหลดโปรแกรม ดาวน์โหลดเพลง ดาวน์โหลดหนัง หรือดาวน์โหลดลงโทรศัพท์เคลื่อนที่ เช่น ดาวน์โหลดริงโทน เป็นต้น

-        Counter กิดจากการนำเอาฟลิปฟล็อปที่ต่อกันเป็นวงจรมาใช้งาน นับจำนวนคล๊อก (Clock) หรือพัลซ์ (Pulse) ที่ป้อนเข้าทางอินพุต หรือบางที่อาจเรียกว่าวงจรหารความถี่ หลักการทำงาน ของวงจรส่วนใหญ่จะเป็นวงจรการนับแบบเลขฐานสอง วงจรนับสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ
วงจรการนับแบบไม่เข้าจังหวะ (Asynchronous Counter หรือ Ripple Counter) วงจรการนับแบบเข้าจังหวะ (Synchronous Counter หรือ Parallel Counter)

6. หาโจทย์เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตมาอย่างน้อย       5 ข้อ (เขียน ก ข ค ง พร้อมเฉลย)

ข้อสอบคอมพิวเตอร์ ข้อ พร้อมเฉลย

1ซอฟต์แวร์ คือก. โปรแกรมชุดของคำสั่งที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์
ข. อุปกรณ์เทคโนโลยีระดับสูง
ค. โปรแกรมแก้ปัญหาทุกอย่างของมนุษย์
ง. อุปกรณ์ที่ทำหน้าเสมือนสมองกล
2ข้อใดไม่ใช่ระบบปฏิบัติการ
ก. ระบบปฏิบัติการดอส
ข. ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์เวิร์ด
ค. ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟต์วินโดวส์
ง. ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์
3ชนิดของซอฟต์แวร์ (software) มีทั้งหมดกี่ชนิด
ก. มี ชนิด 1.ซอฟต์แวร์ระบบ
ข. มี ชนิด 1.ซอฟต์แวร์ระบบ 2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์ค. มี ชนิด 1.ซอฟต์แวร์ระบบ 2.ซอฟต์แวร์ ประยุกต์ 3.ซอฟต์แวร์บุคคล
ง. มี ชนิด 1.ซอฟต์แวร์ระบบ 2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์ 3.ซอฟต์แวร์บุคคล 4. ซอฟต์แวร์ บริหาร
4ซอฟต์แวร์ประมวลคำ คือข้อใดก. word processing softwareข. spreadsheet software
ค. database management software
ง. presentation software
5ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน
ก. word processing software
ข. spreadsheet softwareค. database management software
ง. presentation software



ข้อสอบ o-net


แบบทดสอบ O-NET  (คอมพิวเตอร์)


คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท(X)ทับข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว


ข้อที่ 1)
เมาส์เป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่มีหน้าที่อย่างไร
   ควบคุมการชี้ตำแหน่งบนจอภาพ 
   รับข้อมูลเสียงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
   ควบคุมการเคลื่อนที่ของเคอร์เซอร์บนจอภาพ 
   ข้อ ก และ ค ถูก 

ข้อที่ 2)
หน่วยคำนวณและตรรกะอยู่ส่วนใดของระบบคอมพิวเตอร์
   หน่วยรับข้อมูล
   หน่วยความจำหลัก
   หน่วยความจำสำรอง 
   หน่วยประมวลผลกลาง

ข้อที่ 3)
อุปกรณ์ในข้อใด จัดเป็นอุปกรณ์หน่วยความจำรอง
   แฟลชไดรฟ์ แรม
   ฮาร์ดดิสก์ แผ่นซีดี
   ซีพียู จอภาพ
   เครื่องพิมพ์ ลำโพง

ข้อที่ 4)
อุปกรณ์จับภาพ จัดเป็นส่วนประกอบพื้นฐานในหน่วยใดของคอมพิวเตอร์
   หน่วยรับข้อมูล
   หน่วยความจำหลัก
   หน่วยประมวลผลกลาง
   หน่วยแสดงผล

ข้อที่ 5)
ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ข้อมูลและคำสั่งมาใช้ในภายหลังจากปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ โดยข้อมูลไม่สูญหายจากอุปกรณ์ใด
   แรม
   ฮาร์ดดิสก์
   เครื่องพิมพ์
   สแกนเนอร์

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

จงบอกชื่ออุปกรณ์ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

จงบอกชื่ออุปกรณ์ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตต่อไปนี้

4.1 เครื่องคอมพิวเตอร์
ทำหน้าที่ คอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม จะมีลักษณะการทำงานของส่วนต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กันเป็นกระบวนการ  โดยมีองค์ประกอบพื้นฐานหลักคือ  Input  Process และ output
4.2 โมเด็ม
ทำหน้าที่ เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านทางสายโทรศัพท์ โมเด็มจะแปลงสัญญาณข้อมูลของคอมพิวเตอร์จากสัญญาณดิจิตอล (digital signals) ให้เป็นสัญญาณอนาล็อก (analog signals) เพื่อให้สามารถส่งไปบนคู่สายโทรศัพท์ได้ จากนั้นก็จะทำหน้าที่หมุนเบอร์โทรศัพท์เข้าไปที่ Server ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต
4.3 โทรศัพท์
ทำหน้าที่ ระบบโทรคมนาคมซึ่งใช้อุปกรณ์ทางไฟฟ้า เป็นเครื่องมือสื่อสารให้ติดต่อพูดถึงกันได้ในระยะไกล
4.4 ซอฟต์แวร์
ทำหน้าที่ ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงหมายถึงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยคำสั่งของคอมพิวเตอร์ คำสั่งเหล่านี้เรียงกันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากที่ทราบมาแล้วว่าคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่ง การทำงานพื้นฐานเป็นเพียงการกระทำกับข้อมูลที่เป็นตัวเลขฐานสอง ซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ หรือแม้แต่เป็นเสียงพูดก็ได้  โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้สั่งงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นซอฟต์แวร์ เพราะเป็นลำดับขั้นตอนการทำงานของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งทำงานแตกต่างกันได้มากมายด้วยซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกัน ซอฟต์แวร์จึงหมายรวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกประเภทที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้  การที่เราเห็นคอมพิวเตอร์ทำงานให้กับเราได้มากมาย เพราะว่ามีผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาให้เราสั่งงานคอมพิวเตอร์ ร้านค้าอาจใช้คอมพิวเตอร์ทำบัญชีที่ยุ่งยากซับซ้อน บริษัทขายตั๋วใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในระบบการจองตั๋ว คอมพิวเตอร์ช่วยในเรื่องกิจการงานธนาคารที่มีข้อมูลต่าง ๆ มากมาย คอมพิวเตอร์ช่วยงานพิมพ์เอกสารให้สวยงาม เป็นต้น การที่คอมพิวเตอร์ดำเนินการให้ประโยชน์ได้มากมายมหาศาลจะอยู่ที่ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์จึงเป็นส่วนสำคัญของระบบคอมพิวเตอร์ หากขาดซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถทำงานได้ ซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีความสำคัญมาก และเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้ระบบสารสนเทศเป็นไปได้ตามที่ต้องการ
4.5 ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต
ทำหน้าที่ หน่วยงานที่บริการให้เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัท เข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ หน่วยงานราชการหรือสถาบันการศึกษา กับบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ทั่วไป
 ISP ที่เป็นหน่วยงานราชการ หรือสถาบันการศึกษา มักจะเป็นการให้บริการฟรีสำหรับสมาชิกขององค์การเท่านั้น แต่สำหรับ ISPประเภทที่ให้บริการในเชิงพาณิชย์ ผู้ใช้ที่ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตจะต้องสมัครเข้าเป็นสมาชิกของ ISP รายนั้นๆ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งอัตราค่าบริการจะขึ้นอยู่กับ ISP แต่ละราย ข้อดีสำหรับผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตในเชิงพาณิชย์ก็คือ การให้บริการที่มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งรองรับกับความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน มีทั้งรูปแบบส่วนบุคคล ซึ่งจะให้บริการกับประชาชนทั่วไปที่ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ต และบริการในรูปแบบขององค์กร หรือบริษัท ซึ่งให้บริการกับบริษัทห้างร้าน หรือองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการให้พนักงานในองค์กรได้ใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ต



ที่มา:https://sites.google.com/site/sarsnthes2554/homework1/xupkrn-ni-kar-cheuxm-tx-xintexrnet

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต

1.อินเตอร์เน็ต คืออะใร

2.วิวัฒนาการของอินเตอร์เน็ต
3.ความสำคัญของอินเตอร์เน็ต

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต

1.อินเตอร์เน็ต คืออะใร

 อินเทอร์เน็ต (อังกฤษInternet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (protocol) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลาย ๆ ทาง อาทิอีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้

2.วิวัฒนาการของอินเตอร์เน็ต



จากวิวัฒนาการของระบบสื่อสารในปัจจุบัน จากระบบ Analog สู่ระบบ Digital จากระบบสื่อสารผ่านสาย สู่ระบบไร้สาย จากการใช้ Telex และ Fax ในการสื่อข้อมูล สู่ระบบ Internet การใช้งานระบบภูมิศาสตร์สารสนเทศก็ได้พัฒนารูปแบบการทำงาน และการติดต่อสื่อสารที่ก้าวหน้าตามไปด้วย จากเดิมทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ในลักษณะ Stand-alone เป็นระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์บนเครือข่ายที่ใช้ระบบสายเช่น ระบบ LAN และ Intranet หรือสายโทรศัพท์ มาเป็นการใช้ระบบ Internet เป็น Protocol เพื่อเชื่อมโยงการทำงานในที่ที่ห่างไกลเข้าด้วยกัน หรือเพื่อเป็นการสืบค้นข้อมูลเพื่อการบริการ ในต่างประเทศเริ่มใช้ระบบ Wireless Communication นอกจากจะใช้เพื่อการสืบค้นข้อมูลผ่าน Internet แล้ว ยังใช้ในการ Update ข้อมูล หรือเพื่อเป็นการนำข้อมูลที่ต้องการไปยังพื้นที่ที่ปฏิบัติการ ด้วยเทคโนโลยีของ Hardware Notebook, Mobile Phone, Palm, IPAQ และความสามารถของ Software รุ่นใหม่ สามารถที่จะทำงานตรวจเช็คข้อมูล และ Update ข้อมูลกลับสู่หน่วยงานได้ทันที่ บทความนี้จะกล่าวถึงการใช้เทคโนโลยี Wireless Internet ในงาน GIS ซึ่งจะเป็นพื้นฐานการนำข้อมูลที่ Update ของ GIS ไปเพื่อการตัดสินใจ (Decision Making) หรือเป็นข้อมูลในการออกแบบแบบ Collaborative Design ต่อไป 

3.ความสำคัญของอินเตอร์เน็ต
  • การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย
  • การติดต่อสื่อสารที่สะดวก และรวดเร็ว
  • แหล่งรวบรวมข้อมูลแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก
ที่มา:http://www.kkn.ac.th/webkns/kesorn/internet.html
         http://www.thaigoodview.com/node/13239
         http://www.school.net.th/library/create-web/10000/technology/10000-5902.html

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ประวัติของข้าพเจ้า


ชื่อ : นาย ปิยวัฒน์ สุทธิปัญญา
อายุ : 17 ขวบ ชื่อเล่น : bot (sperm)
สวรรค์ส่งมาเกิด : วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541
สิ่งที่ชอบ : กีตาร์,ฟุตซอล
งานอดิเรก : เล่นกีตาร์,ฟังเพลง,เล่นฟุตซอล
นิสัยที่ใช้อยู่ปัจจุบัน : กวนตีน,เฟลลี่,ขี้เล่นแต่ไม่เล่นขี้น่ะ
สัตว์ที่ชอบ : มะหมา
ชื่อเฟส : Bot Piyawat Suttipanya

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อินเตอร์เน็ต

ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้


1.อินเตอร์เน็ต คือ  เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลาย ๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (protocol) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลาย ๆ ทาง อาทิ อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้ 

2.จงอธิบายพัฒนาการของอินเตอร์เน็ตมาพอสังเขป

        ปี พ.ศ. 2500 (1957) โซเวียดได้ปล่อยดาวเทียม Sputnik ทำให้สหรัฐอเมริกาได้ตระหนักถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้น ค.ศ. 2512 (1969) กองทัพสหรัฐต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงทางการทหาร และความเป็นไปได้ในการถูกโจมตี ด้วยอาวุธปรมาณู หรือนิวเคลียร์ การถูกทำลายล้าง ศูนย์คอมพิวเตอร์ และระบบการสื่อสารข้อมูล อาจทำให้เกิดปัญหาทางการรบ และในยุคนี้ ระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีหลากหลายมากมายหลายแบบ ทำให้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร และโปรแกรมกันได้ จึงมีแนวความคิด ในการวิจัยระบบที่สามารถ
เชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์ และแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างระบบที่แตกต่างกันได้ ตลอดจนสามารถรับส่งข้อมูลระหว่างกัน ได้อย่างไม่ผิดพลาด แม้ว่าคอมพิวเตอร์บางเครื่อง หรือสายรับส่งสัญญาณ เสียหายหรือถูกทำลาย กระทรวงกลาโหมอเมริกัน (DoD = Department of Defense) ได้ให้ทุนที่มีชื่อว่า DARPA (Defense Advanced Research Project Agency) ภายใต้การควบคุมของ Dr. J.C.R. Licklider ได้ทำการทดลอง ระบบเครือข่ายที่มีชื่อว่า DARPA Network และต่อมาได้กลายสภาพเป็น ARPANet (Advanced Research Projects Agency Network) และต่อมาได้พัฒนาเป็น INTERNET ในที่สุด


3.การเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตต้องทำอย่างไรบ้าง


การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าสู่อินเทอร์เน็ตผู้ใช้จะต้องสมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายจะต้องมีบีประจำเครื่อง (Account Number) ที่ศูนย์บริการ แล้วเชื่อโยงคอมพิวเตอร์เข้ากับเครื่องที่ศูนย์บริการ โดยใช้สายโทรศัพท์ผ่านทางโมเด็ม (Modem) และจะมีซอฟต์แวร์ทำหน้าที่แปลงคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้เป็นเทอร์มินัลของคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์บริการเมื่อสมัครเป็นสมาชิกแล้ว ผู้ใช้จะมี User ID หรือ User name หรือ Login name  และ Password ผู้ใช้จะต้องจัดเตรียมและเชื่อมต่ออุปกรณ์ดังนี้
1.เครื่องคอมพิวเตอร์  ไม่จำกัดชนิดและยี่ห้อ ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้จะใช้เครื่อง PC 
2.โมเด็ม ทำหน้าที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์แลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์ได้ ความเร็วของโมเด็มเป็นความเร็วในการส่งข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์ โมเด็มมีขนาดความเร็วต่าง ๆ กัน   โมเด็มมีขนาดความเร็วสูงตั้งแต่ 14.4 Kbps ขึ้นไป  ส่วนใหญ่แล้วจะมีความสามารถรับส่ง Fax ได้ด้วย เรียกกว่า Fax Modem โมเด็มที่มีความเร็วสูงจะมีราคาแพงกว่า ความเร็วของโมเด็มวัดเป็นบิดต่อวินาที (bps)
      โมเด็มแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) โมเด็มภายใน (internal modem) เป็นการ์ดที่เสียบลงบนสล็อต (slot) ของเมนบอร์ด
2)โมเด็มภายนอก (External nodem) เป็นกล่องขนาดเล็ก มีพอร์ต (port)  เพื่อเสียบสัญาณจากคอมพิวเตอร์เข้าโมเด็ม มีช่องสำหรับเสียบสายโทรศัพท์ และมีสายไฟจากโมเด็มเพื่อต่อเข้ากับไฟบ้าน
3. โทรศัพท์  เพื่อเชื่อมต่อสายโทรศัพท์เข้ากับโมเด็ม  เพื่อให้สัญญาณข้อมูลส่งผ่านสายโทรศัพท์  ดังนั้นผู้ต้องการใช้บริการอินเทอร์เน็ต  จะต้องมีโทรศัพท์หนึ่งเลขหมายในการต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต 
4.ซอฟต์แวร์  ในการใช้อินเทอร์เน็ตจะมีโปรแกรมที่เกี่ยวข้องอยู่ 3 ประเภทคือ       
1.โปรแกรมที่ใช้ในการติดต่อเพื่อจัดการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับอินเทอร์เน็ต  ถ้าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการWindow 95 จะมีโปรแกรม dial-Up Networking ที่ใช้ในการสื่อสารอยู่แล้ว
       2. โปรแกรมที่ใช้รับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เช่น Eudora
       3. โปรแกรมที่ใช้ค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เรียกกว่า บราวเซอร์ (Browser) เช่น Netscape Navigator, Internet Exploer
5.ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP : Internet Service Provider)  ผู้ใช้จะต้องสมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต  ซึ่งเป็นศูนย์บริการให้กับสมาชิก ซึ่งมีทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งผู้ให้บริการเหล่านี้จะเชื่อมโยงกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกโดยศูนย์บริการเหล่านี้จะต้องเสียเงินค่าเช่าสายสัญญาณไปต่างประเทศให้กับรัฐ

4.จงบอกหน้าที่ของอุปกรณ์ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตต่อไปนี้
4.1 เครื่องคอมพิวเตอร์
ทำหน้าที่ คอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม จะมีลักษณะการทำงานของส่วนต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กันเป็นกระบวนการ  โดยมีองค์ประกอบพื้นฐานหลักคือ  Input  Process และ output
4.2 โมเด็ม
ทำหน้าที่ เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านทางสายโทรศัพท์ โมเด็มจะแปลงสัญญาณข้อมูลของคอมพิวเตอร์จากสัญญาณดิจิตอล (digital signals) ให้เป็นสัญญาณอนาล็อก (analog signals) เพื่อให้สามารถส่งไปบนคู่สายโทรศัพท์ได้ จากนั้นก็จะทำหน้าที่หมุนเบอร์โทรศัพท์เข้าไปที่ Server ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต
4.3 โทรศัพท์
ทำหน้าที่ ระบบโทรคมนาคมซึ่งใช้อุปกรณ์ทางไฟฟ้า เป็นเครื่องมือสื่อสารให้ติดต่อพูดถึงกันได้ในระยะไกล
4.4 ซอฟต์แวร์
ทำหน้าที่ ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงหมายถึงลำดับขั้นตอนการทำงานที่เขียนขึ้นด้วยคำสั่งของคอมพิวเตอร์ คำสั่งเหล่านี้เรียงกันเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากที่ทราบมาแล้วว่าคอมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่ง การทำงานพื้นฐานเป็นเพียงการกระทำกับข้อมูลที่เป็นตัวเลขฐานสอง ซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ หรือแม้แต่เป็นเสียงพูดก็ได้  โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้สั่งงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นซอฟต์แวร์ เพราะเป็นลำดับขั้นตอนการทำงานของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งทำงานแตกต่างกันได้มากมายด้วยซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกัน ซอฟต์แวร์จึงหมายรวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทุกประเภทที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้  การที่เราเห็นคอมพิวเตอร์ทำงานให้กับเราได้มากมาย เพราะว่ามีผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาให้เราสั่งงานคอมพิวเตอร์ ร้านค้าอาจใช้คอมพิวเตอร์ทำบัญชีที่ยุ่งยากซับซ้อน บริษัทขายตั๋วใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในระบบการจองตั๋ว คอมพิวเตอร์ช่วยในเรื่องกิจการงานธนาคารที่มีข้อมูลต่าง ๆ มากมาย คอมพิวเตอร์ช่วยงานพิมพ์เอกสารให้สวยงาม เป็นต้น การที่คอมพิวเตอร์ดำเนินการให้ประโยชน์ได้มากมายมหาศาลจะอยู่ที่ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์จึงเป็นส่วนสำคัญของระบบคอมพิวเตอร์ หากขาดซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถทำงานได้ ซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีความสำคัญมาก และเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้ระบบสารสนเทศเป็นไปได้ตามที่ต้องการ
4.5 ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต
ทำหน้าที่ หน่วยงานที่บริการให้เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัท เข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ หน่วยงานราชการหรือสถาบันการศึกษา กับบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ทั่วไป
 ISP ที่เป็นหน่วยงานราชการ หรือสถาบันการศึกษา มักจะเป็นการให้บริการฟรีสำหรับสมาชิกขององค์การเท่านั้น แต่สำหรับ ISPประเภทที่ให้บริการในเชิงพาณิชย์ ผู้ใช้ที่ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตจะต้องสมัครเข้าเป็นสมาชิกของ ISP รายนั้นๆ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งอัตราค่าบริการจะขึ้นอยู่กับ ISP แต่ละราย ข้อดีสำหรับผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตในเชิงพาณิชย์ก็คือ การให้บริการที่มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งรองรับกับความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน มีทั้งรูปแบบส่วนบุคคล ซึ่งจะให้บริการกับประชาชนทั่วไปที่ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ต และบริการในรูปแบบขององค์กร หรือบริษัท ซึ่งให้บริการกับบริษัทห้างร้าน หรือองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการให้พนักงานในองค์กรได้ใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ISP จะเป็นเสมือนตัวแทนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ถ้าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต้องการข้อมูลอะไรก็สามารถติดต่อผ่าน ISP ได้ทุกเวลา โดยวิธีการสมัครสมาชิกนั้น เราสามารถโทรศัพท์ติดต่อไปยัง ISP ที่ให้บริการต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถเลือกรับบริการได้ 2 วิธี คือ ซื้อชุดอินเทอร์เน็ตสำเร็จรูปตามร้านทั่วไปมาใช้ และสมัครเป็นสมาชิกรายเดือน โดยใช้วิธีการติดต่อเข้าไปยัง ISP โดยตรง ซึ่งวิธีการ และรายละเอียดในการให้บริการของแต่ละที่นั้นจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบการให้บริการของ ISP รายนั้น ๆ จะกำหนด
ในการเลือก ISP นั้น ต้องพิจารณาความเหมาะสมในการใช้งานของเราเป็นหลัก โดยมีหลักในการพิจารณาหลายอย่างด้วยกัน เช่น ความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตว่ามีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับหรือไม่ ดำเนินธุรกิจด้านนี้มากี่ปี มีสมาชิกใช้บริการมากน้อยขนาดไหน มีการขยายสาขาเพื่อให้บริการไปยังต่างจังหวัดหรือไม่ มีการลงทุนที่จะพัฒนาการให้บริการมากน้อยเพียงใด เป็นต้น
ประสิทธิภาพของตัวระบบ ก็เป็นส่วนสำคัญที่เราจำเป็นต้องพิจารณาด้วย เช่น ความเร็วในการรับ/ส่ง สม่ำเสมอหรือไม่ (บางครั้งเร็วบางครั้งช้ามาก) สายโทรศัพท์ต้นทางหลุดบ่อยหรือไม่ หรือในบางกรณีที่เรากำลังถ่ายโอนข้อมูล มายังเครื่องคอมพิวเตอร์ปรากฏว่าใช้งานไม่ได้ การเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศ ไปที่ใดบ้างด้วยความเร็วเท่าไหร่ และการเชื่อมต่อกับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศเป็นอย่างไร มีสายสัญญาณหลักที่เร็ว หรือมีประสิทธิภาพสูงมากเพียงใด เพราะปัจจัยเหล่านี้จะมีผลต่อความเร็วในการใช้อินเทอร์เน็ตด้วย
บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งาน Technician Support นี่ก็เป็นส่วนสำคัญที่เราควรจะต้องพิจารณา เพราะหากการใช้บริการของเรามีปัญหา เราจะได้มั่นใจว่าทาง ISP จะมีการดูแลแก้ไขให้ได้อย่างทันท่วงที และเราจะสามารถสอบถามการบริการใหม่ๆได้อยู่เสมอ รวมถึงบริการเสริมต่างๆก็เป็นสิ่งที่เราควรจะต้องพิจารณาด้วยเช่นเดียวกัน
โมเด็ม ก็เป็นส่วนสำคัญที่เราจะต้องใช้ในการท่องอินเทอร์เน็ต เราควรตรวจสอบโมเด็มที่เราใช้งานอยู่ว่าเป็นโมเด็มแบบใด 33.6Kbps หรือ 56 Kbps เนื่องจากโมเด็มมีมาตรฐานหลายแบบ ดังนั้น ควรตรวจสอบดูว่า ISPนั้นๆ สามารถรองรับโมเด็มของเราได้หรือไม่ ทั้งในด้านความเร็วและมาตรฐานต่างๆ เพราะ ISP แต่ละรายการจะมีหมายเลขโทรศัพท์หลายหมายเลขด้วยกัน ซึ่งแต่ละหมายเลขจะใช้สำหรับโมเด็มที่มีความเร็วและมาตรฐานที่แตกต่างกัน
เนื้อที่ในการจัดเก็บข้อมูล ที่ทางผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอนุญาตให้สมาชิกจัดเก็บข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ เช่น เนื้อที่ที่ให้จัดเก็บอีเมล์หรือจัดเก็บไฟล์ข้อมูลไปที่ดาวน์โหลดจากแหล่งข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ซึ่งโดยทั่วไป ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะให้พื้นที่เก็บข้อมูลประมาณ 2 MB
ค่าบริการรายเดือน ก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการเลือกผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ค่าบริการรายเดือนจะถูกกำหนดตามชั่วโมงของการใช้งาน จำนวนชั่วโมงในการใช้งานยิ่งมากเท่าไหร่ ก็จะเสียค่า บริการเพิ่มมมากขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาที่ค่าธรรมเนียมแรกเข้าด้วย เพราะบาง ISP จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้า แต่บาง ISP จะไม่มีการเรียกเก็บ
หลังจากที่เราเลือกผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการติดต่อขอใช้บริการอินเทอร์เน็ตกับ ISP ซึ่งในประเทศไทยมีผู้ให้บริการ 18 แห่งด้วยกัน คือ
            1. บริษัท ล็อกซ์เล่ย์ อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส จำกัด
            2. บริษัท เคเอสซี คอมเมอร์เชียล อินเทอร์เน็ต จำกัด
            3. บริษัท อินโฟ แอคเซส จำกัด
            4. บริษัท สามารถ อินโฟเน็ต จำกัด
            5. บริษัท เอเน็ต จำกัด
            6. บริษัท ไอเน็ต (ประเทศไทย) จำกัด
            7. บริษัท เวิลด์เน็ต แอน เซอร์วิส จำกัด
            8. บริษัท ดาตา ลายไทย จำกัด
            9. บริษัท เอเชีย อินโฟเน็ต จำกัด
            10. บริษัท ดิไอเดีย คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย จำกัด
            11. บริษัท สยาม โกลบอล แอกเซส จำกัด
            12. บริษัท ซีเอส คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
            13. บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด
            14. บริษัท ชมะนันท์ เวิลด์เน็ต จำกัด
            15. บริษัท ฟาร์อีสต์ อินเทอร์เน็ต จำกัด
            16. บริษัท อีซีเน็ต จำกัด
            17. บริษัท เคเบิล วายเลส จำกัด
            18. บริษัท รอยเน็ต จำกัด (มหาชน)

5.อธิบายความหมายของคำศัพท์ต่อไปนี้
1.1 E-Mail คือ วิธีการติดต่อสื่อสารด้วยตัวหนังสือ แทนการส่งจดหมายแบบกระดาษ โดยใช้การส่งข้อมูล

ในรูปของสัญญาณข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จากเครื่องหนึ่งไปยังผู้รับอีกเครื่องหนึ่ง

อีเมล์แอดเดรส ( E- mail Address) คือ ที่อยู่ในอินเทอร์เน็ต หรือที่อยู่ของตู้จดหมายของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ใช้สำหรับบอกตำแหน่งของผู้รับว่าอยู่ที่ไหน เช่น somchai@hotmail.com

ส่วนประกอบของอีเมล์แอดเดรส ประกอบด้วย ส่วนสำคัญ ดังตัวอย่างนี้

ชื่อบัญชีสมาชิกของผู้ใช้เรียกว่า user name อาจใช้ชื่อจริง ชื่อเล่น หรือชื่อองค์กร ก็ได้
ส่วนนี้ คือ เครื่องหมาย @ ( at sign) อ่านว่า แอท
ส่วนที่สาม คือ โดเมนเนม (Domain Name) เป็นที่อยู่ของอินเทอร์เน็ตเซิร์ฟเวอร์ที่เราสมัครเป็นสมาชิกอยู่ เพื่ออ้างถึงเมล์เซิร์ฟเวอร์
ส่วนสุดท้ายเป็นรหัสบอกประเภทขององค์กรและประเทศ ในที่นี้คือ .co.th โดยที่ .co หมายถึง commercial เป็นบริการเกี่ยวกับการค้า ส่วน .th หมายถึง Thailand อยู่ในประเทศไทย
1.2 FTP คือ รูปแบบมาตรฐานบนโครงข่าย (standard network protocol) ชนิดหนึ่ง ที่ใช้สำหรับการส่งไฟล์ หรือรับไฟล์ (receive file) ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นลูกข่ายที่ส่วนใหญ่จะเรียกว่าไคลเอนต์ (client) กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นแม่ข่าย

1.3 Search Engine คือ  โปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต โดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย. เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญ (คีย์เวิร์ด) ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่มันคิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา ในปัจจุบัน เสิร์ชเอนจินบางตัว เช่น กูเกิล จะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหาครั้งต่อ ๆ ไป

1.4 Blog  คือ เว็บไซด์รูปแบบหนึ่ง ที่มีลักษณะรูปร่างหน้าตาคล้ายๆกับการเขียนไดอารี่ หรือ บันทึกส่วนตัว ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากเราใช้ฟรี ไม่ต้องเสียเงิน

1.5 Chat คือ การพูดคุยออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยอาจใช้โปรแกรมแตกต่างกันไปค่ะ เช่น MSN, Google talk, Yahoo Messenger, Skype
        Chat Room (ห้องสนทนา) คือ การสนทนาออนไลน์อีกประเภทหนึ่ง ที่มีการส่งข้อความถึงกัน โต้ตอบกันได้อย่างรวดเร็วแม้ไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ในทันที ไม่จำกัดอายุและเพศ ซึ่งการเข้าไปสนทนาเราจำเป็นต้องเข้าไปในเว็บไซต์ที่ให้บริการห้องสนทนาเช่น www.sanook.comwww.pantip.com เราสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนได้ ไม่ว่าจะเพื่อความรู้ หรือบันเทิง

6.ที่อยู่ของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail Address) คือ เป็นวิธีการติดต่อสื่อสารกันบน Internet ที่เป็นมาตรฐาน และเก่าแก่ที่สุด โดยที่สามารถจะส่งเอกสารที่เป็นข้อความธรรมดา จนถึงการส่งเอกสาร แบบมัลติมิเดีย มีทั้งภาพและเสียง ไปรอบโลก ในการให้บริการแบบนี้ ผู้ที่ต้องการส่ง และรับจดหมาย อีเล็กทรอนิกส์ จะต้องมีบัญชีการใช้บริการที่แน่นอน ซึ่งเรียกว่า E-Mail Address คล้ายๆ กับชื่อ-นามสกุล และที่อยู่นั่นเอง

7.การโอนย้ายแฟ้มข้อมูลระหว่างกัน สามารถทำได้อย่างไร

 เป็นระบบที่ทำให้ผู้ใช้สามารถรับส่งแฟ้มข้อมูลระหว่างกันหรือมีสถานีให้บริการเก็บแฟ้มข้อมูลที่อยู่ในที่ต่างๆ และให้บริการ ผู้ใช้สามารถเข้าไปคัดเลือกนำแฟ้มข้อมูลมาใช้ประโยชน์ได้ เช่น โปรแกม cuteFTP โปรแกรม wsFTP เป็นต้น 

8.จงบอกหลักการค้นหาข้อมูลของ Search Engine

การค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าเราเปิดไปทีละหน้าจออาจจะต้องเสียเวลาในการค้นหา และอาจหาข้อมูลที่เราต้องการไม่พบ การที่เราจะค้นหาข้อมูลให้พบอย่างรวดเร็วจะต้องใช้เว็บไซต์สำหรับการค้นหาข้อมูลที่เรียกว่า Search Engine Site ซึ่งจะทำหน้าที่  รวบรวมรายชื่อเว็บไซต์ต่างๆ เอาไว้ โดยจัดแยกเป็นหมวดหมู่
Web search engine ที่นิยมใช้กันมากที่สุด 3 อันดับ คือ  1. Google  2. Yahoo  3. MSN/Windows Live 9.จงบอกขั้นตอนการค้นหาข้อมูลด้วย Search Engine โปรแกรมค้นหาและคือ โปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต โดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญ(คีย์เวิร์ด) ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่มันคิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา ในปัจจุบัน เสิร์ชเอนจินบางตัว เช่น กูเกิลจะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหาครั้งต่อ ๆ ไป

 
10.การค้นหาคำในหน้าเว็บเพจด้วย Browser สามารถทำได้อย่างไร ครื่องมือหรือเว็บไซต์ที่อำนวยความสะดวกในการสืบค้นข้อมูลและข่าวสารให้แก่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต จากแหล่งข้อมูลเว็บไซต์ต่างๆ ในระบบเครือข่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ต้องการชนิดของ Search engine


11.จงยกตัวอย่างโปรแกรมสนทนาบนเครือข่ายมา 1 โปรแกรม พร้อมทั้งอธิบายการทำงานของโปรแกรมนั้นๆ